บทคัดย่อ
บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนําเสนอ หนังสือหายากที่มีการจัดพิมพ์ก่อนปี พ.ศ. ๒๔๖๗ ของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นทรัพยากรสารสนเทศที่มีความสําคัญทางวิชาการทั้ง ด้านประวัติและพัฒนาการของการพิมพ์ ตัวอักษร ภาษา รวมถึงประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรมของ แต่ละท้องถิ่นในแต่ละยุคแต่ละสมัย โดยใช้เป็นเอกสารอ้างอิงสําหรับการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยนอกจากนี้ ยังอธิบายถึงความเป็นมาและพัฒนาการของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ในฐานะเป็นแหล่งรวบรวมหนังสือหายากในท้องถิ่น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้หนังสือหายากที่สําคัญประจําภาคเหนือ
“หนังสือหายากนั้น เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางภูมิปัญญาของชาติ แต่มีสภาพบอบบางและชำรุด ขอให้หอสมุดแห่งชาติอนุรักษ์ให้มีสภาพดี จัดทำสำเนาเพื่อรักษาต้นฉบับ แล้วเผยแพร่ภูมิปัญญาบรรพบุรุษไทยให้แพร่หลายต่อไป”
สะท้อนให้เห็นว่า “หนังสือหายาก” มีคุณค่าและมีความสําคัญในฐานะมรดกภูมิปัญญาของชาติที่บรรพบุรุษในอดีตได้ บันทึกเรื่องราว ความรู้ ความคิด ประสบการณ์ เป็นเอกสารหลักฐานที่มีความสําคัญด้านประวัติและพัฒนาการของการพิมพ์ ตัวอักษรและภาษา รวมถึงประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นในแต่ละยุคแต่ละสมัย และถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นแหล่งข้อมูลสําคัญทางวิชาการตลอดจนได้ทราบถึงข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในสาขาวิทยาการต่าง ๆ โดย ใช้เป็นเอกสารอ้างอิงสําหรับการ ศึกษา ค้นคว้า และวิจัย ด้วยความสําคัญและคุณค่าของหนังสือหายากจึงเปรียบเสมือนเป็นมรดกภูมิปัญญาของชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา โดยสถาบันสารสนเทศที่ถือเป็นเสาหลักของชาติในการรวบรวม จัดเก็บ และอนุรักษ์หนังสือหายากในประเทศไทย คือ หอสมุดแห่งชาติ (National Library)
หอสมุดแห่งชาติสาขาเชียงใหม่ จุดเริ่มต้น “แหล่งรวบรวมหนังสือหายาก” ในท้องถิ่น

แรกเริ่ม“หอสมุดแห่งชาติสาขาเชียงใหม่” เกิดขึ้นจากคณะกรรมการพิพิธภัณฑ์สถานแลหอสมุดมณฑลพายัพ ได้เฝ้าพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๑ องค์อุปถัมภิกาพิพิธภัณฑ์สถานแลหอสมุดมณฑลพายัพ ได้ประทานคําแนะนําเรื่องสถานที่ที่จะตั้งหอสมุดซึ่งคณะกรรมการฯ จะจัดให้เป็น “สาขาของหอพระสมุดสําหรับพระนคร” และเมื่อคณะกรรมการฯ ได้ตกลงกันเลือกตามพระราชดําริแล้ว จึงได้เริ่มการก่อสร้างหอสมุดกลางมณฑลพายัพ ซึ่งในระหว่างที่ก่อสร้างอาคารหอสมุดกลางมณฑลพายัพ ได้รับการสนับสนุนจากราชบัณฑิตยสภาให้จัดตั้งหอสมุดกลางมณฑลพายัพขึ้นเป็นการชั่วคราวที่โรงช้างต้น ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๖ การสร้างหอสมุดกลางมณฑลพายัพยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากขาดแคลนเงินในการสร้างต่อให้สําเร็จ หลวงวิจิตรวาทการ อธิบดีกรมศิลปากรในสมัยนั้นจึงได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างหอสมุดฯ นี้ จนแล้วเสร็จและได้จัดเป็น“หอสมุดแห่งชาติสาขาเชียงใหม่”
ในปี พ.ศ.๒๔๗๘ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ประสบปัญหาสถานที่เรียนไม่พอกับจํานวนนักเรียน ข้าหลวงตรวจการแผนกธรรมการเชียงใหม่ จึงได้ขอยืมหอสมุดของกรมศิลปากรเป็นห้องสมุดชั่วคราวของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย โดยกรมศิลปากรได้มีความเห็นว่า “...หอสมุดหลังนี้ ทางฝ่ายบ้านเมืองเป็นผู้เรี่ยไรก่อสร้างขึ้นโดยแสดงความจํานงจะให้เป็นหอสมุดกลางจังหวัดเชียงใหม่ ฉะนั้นสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้โอนจึงไม่ได้อยู่ที่กรมศิลปากร เวลานี้กรมศิลปากรได้ทําความตกลงกับข้าหลวงประจําจังหวัดเชียงใหม่ เปิดสาขาหอสมุดแห่งชาติประจําเชียงใหม่ขึ้นแล้ว... เมื่อสาขาหอสมุดแห่งชาติจําเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว กรมศิลปากรก็ไม่ขัดข้องขอมอบให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการจังหวัดเชียงใหม่...”
.jpg)
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๑ กรมวิสามัญศึกษาได้ขอโอนที่ดินที่ตั้งหอสมุดจังหวัดเชียงใหม่ และขอรวมกิจการของหอสมุดฯเข้ากับห้องสมุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย หากแต่กรมศิลปากรตกลงโอนให้เฉพาะที่ดิน ส่วนกิจการของหอสมุดฯจําต้องสงวนไว้ เพราะกรมศิลปากรกําลังดําเนินการเพื่อจัดสร้างหอสมุดแห่งชาติประจําจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นในที่ดินของกรมศิลปากร หากจะรื้อถอนอาคารหอสมุดก็ขอให้รวบรวมเอกสารหนังสือของหอสมุดฯทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ในที่ใดที่หนึ่งอย่างเป็นสัดส่วน โดยปลอดภัยจากการชํารุดสูญหาย เมื่อกรมศิลปากรสร้างหอสมุดฯเสร็จแล้วจะขอรับคืนมา ซึ่งต่อมากรมศิลปากรได้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ตั้งหอสมุดให้เป็นสมบัติของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยแล้ว “หอสมุดแห่งชาติสาขาเชียงใหม่” ก็เปิดให้บริการต่อมาอีกระยะหนึ่งจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ต้องปิดให้บริการลงโดยได้ขนย้ายหนังสือ ครุภัณฑ์และวัสดุห้องสมุดไปจัดเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติสาขาลําพูน ซึ่งเป็นสาขาที่ย้ายมาจากหอสมุดแห่งชาติสาขาเชียงใหม่
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ “แหล่งเรียนรู้ หนังสือหายาก” ประจําภาคเหนือ
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ (Ratchamangkhalaphisek National Library of Chiang Mai) เกิดจากดําริของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่จะให้ดําเนินการก่อสร้างหอสมุดแห่งชาติประจําภาคเหนือ เพื่อถวายเป็นราชสดุดีแด่อง ค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมฉลองปีรัชมังคลาภิเษก ๒๕๓๑๗ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๒นับว่าเป็น “หอสมุดแห่งชาติส่วนภูมิภาคแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ประจําภาคเหนือ” จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ทําหน้าที่รวบ รวม จัดเก็บ บริการ เผยแพร่ และอนุรักษ์ทรัพยากรสารสนเทศอันเป็นมรดกภูมิปัญญาของชาติ เพื่อรักษาไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเผยแพร่ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษใน ท้องถิ่นและประเทศชาติแก่สาธารณชนทั่วไป โดยมีภารกิจสําคัญประการหนึ่ง ตามหลักสากล ซึ่ง ได้กําหนด หน้าที่ของหอสมุดแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับหนังสือหายากไว้ประการหนึ่งว่า “หอสมุดแห่งชาติเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งตีพิมพ์ และสื่อความรู้ทุกชนิดในชาติให้สมบูรณ์ที่สุด โดยเน้นต้นฉบับหนังสือตัวเขียน (Manuscript)และหนังสือเก่า (Rare Book)

ปัจจุบันหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สังกัดสํานักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นแหล่งรวบรวม จัดเก็บหนังสือหายากที่สําคัญแห่งหนึ่งในท้องถิ่นและประเทศไทยการรวบรวมหนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่นั้น เริ่มตั้งแต่ มีการก่อตั้งหอสมุดฯ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ โดยการรวบรวมหนังสือเก่าหาได้ยากทั้งที่ได้รับมอบจากหน่วยงาน บุคคลต่าง ๆ และหนังสือที่ได้ขนย้ายจากหอสมุดแห่งชาติสาขาจังหวัดเชียงใหม่ (หอสมุดกลาง มณฑลพายัพ หรือห้องสมุดโรงเรียนประจํามณฑลพายัพ “ยุพราชวิทยาลัย”) นําไปจัดเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติสาขาลําพูน จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ กรมศิลปากรได้ดําเนินการถ่ายโอนภารกิจของหอสมุดแห่งชาติสาขาลําพูนให้แก่เทศบาลเมืองลําพูน มีการลงนามส่งมอบ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น หอสมุดแห่งชาติหริภุญไชย๙ จึงได้ขนย้ายหนังสือบางส่วนที่พิจารณาคัดเลือกแล้วว่าเป็นหนังสือหายากมาดําเนินการรวบรวมและจัดเก็บให้บริการที่หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
หนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ที่ได้ดําเนินการตามหลักวิชาการทางบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์เรียบร้อยแล้ว โดยรวบรวม จัดเก็บ ให้บริการและอนุรักษ์มีจํานวน ทั้งหมด ๒,๙๓๒ ชื่อเรื่อง

ประกอบด้วย ภาษาไทย จํานวน ๒,๔๐๗ ชื่อเรื่อง ภาษาต่างประเทศ จํานวน ๔๕๙ ชื่อเรื่อง และภาษาถิ่น ( ล้านนา) จํานวน ๖๖ ชื่อเรื่อง อาทิ พระราชนิพนธ์ พระนิพนธ์ หนังสือส่วนพระองค์ พระราชหัตถเลขา จดหมายเหตุ ตํานาน พงศาวดาร หนังสือแบบเรียน หนังสือที่จัดพิมพ์ในโอกาสต่างๆ หนังสือกรมศิลปากร หนังสือชีวประวัติบุคคลสําคัญในท้องถิ่น หนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรก หนังสือภาพหายาก หนังสือที่พิมพ์ในโรงพิมพ์ยุคแรก หนังสือที่มีความโดดเด่นมีรูปเล่มสวยงาม และมีภาพประกอบที่ทรงคุณค่า เป็นต้น
“หลักเกณฑ์การคัดเลือก” หนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
หนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ เป็นหนังสือที่ผ่านการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่ได้กําหนดในการพิจารณาดําเนินการประเมินคุณค่าตามข้อสังเกตลักษณะของหนังสือหายากของสํานักหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งนํามาใช้เป็นแนวทางในการคัดเลือกหนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่๑๐ ดังนี้
- •๑. หนังสือเก่าแก่หาได้ยาก (Rarity): เป็นหนังสือที่มีคุณค่าในด้านการพิมพ์ เป็นเอกสารปฐมภูมิ(Primary source) ในด้านประวัติศาสตร์และพัฒนาการพิมพ์ของโลก ส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่พิมพ์ในรุ่นแรก ๆ ของโลก หนังสือที่พิมพ์ในยุคก่อนที่มนุษย์จะคิดค้นวิธีเรียงพิมพ์ และหนังสือที่ผลิตขึ้นด้วยวิธีเรียงพิมพ์
- •๒. หนังสือซึ่งมีความสําคัญในด้านที่เป็นเอกสารปฐมภูมิในด้านประวัติศาสตร์การพิมพ์ของแต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาค (Local rarity): เป็นหนังสือที่จัดพิมพ์ในช่วงระยะเวลา ๕๐ - ๘๐ ปีแรกของพัฒนาการด้านการพิมพ์ในประเทศไทย กิจการด้านการพิมพ์ปรากฏหลักฐานเริ่มเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๙ที่กล่าวถึงสิ่งพิมพ์ภาษาไทยฉบับแรกที่พิมพ์ขึ้นในเมืองไทย”๑๑ดังนั้นหนังสือที่จัดพิมพ์อยู่ระหว่างปีพ.ศ. ๒๓๗๙ – ๒๔๖๐ จึงเป็นหนังสือซึ่งมีความสําคัญในด้านประวัติศาสตร์การพิมพ์ของประเทศไทย
- •๓. หนังสือที่มีการพิมพ์จํานวนจํากัด (Limited edition): เป็นหนังสือที่มีการจัดพิมพ์จํานวนไม่มากในการพิมพ์ครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์ในโอกาสพิเศษหรือด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นอภินันทนาการแก่กลุ่มบุคคล จึงมีการพิมพ์จํานวนจํากัด
- •๔. หนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรก (First edition): เป็นงานเขียนที่ได้รับการจัดพิมพ์ต้นฉบับออกมาในรูปเล่มของหนังสือเป็นครั้งแรก โดยงานที่เป็นที่นิยมอาจได้รับการตีพิมพ์หรือตีพิมพ์ซ้ําโดยผู้จัดพิมพ์หรือสํานักพิมพ์หลายรายและในรูปแบบต่าง ๆ
- •๕. หนังสือที่มีเนื้อหาเป็นที่กล่าวขวัญถึงหรือความเด่นของหนังสือ (Reputation): เป็นหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์และมีความเด่นในเนื้อหาสาระหรือการใช้ภาษาอย่างถูกต้องไพเราะ ผลงานส่วนน้อยที่แตกต่างจากผลงานส่วนใหญ่ เรื่องที่กุขึ้นหรือเรื่องที่เป็นการปลอมแปลงวรรณกรรม
- •๖. หนังสือเก่าที่มีสภาพรูปเล่มสมบูรณ์ หรือสภาพรูปเล่มที่สวยงาม: เป็นหนังสือเก่าที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุ บันที่มีสภาพเหมือนแรกออกจําหน่าย เช่น หนังสือที่ใช้วัสดุมีค่าจัดทําอย่างประณีต สวยงาม หรือการเย็บเล่มเข้าเล่มทําเป็นพิเศษ เป็นต้น
- •๗. หนังสือที่มีประวัติการครอบครองว่าเคยเป็นของผู้ใดมาก่อน: เป็นหนังสือที่มีหลักฐานหรือประวัติการครอบครอง เช่น หนังสือของพระเจ้าแผ่นดิน ผู้นําประเทศ หรือบุคคลสําคัญของโลก
“หนังสือหายากที่มีอายุ ๑๐๐ ปี” ของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
หนังสือหายาก เป็นทรัพยากรสารสนเทศที่มีคุณค่าถือเป็นมรดกทรัพย์สินทางปัญญาของชาติทั้งด้านเนื้อหาและด้านการพิมพ์ มีอายุประมาณ ๕๐ – ๑๕๐ ปี ซึ่งผู้ใช้บริการอาจไม่สามารถหาได้จากห้องสมุดทั่วไป และไม่มีจําหน่ายในท้องตลาด ปัจจุบันหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ได้ดําเนินการรวบรวม จัดเก็บ บริการและอนุรักษ์หนังสือหายากที่มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี ซึ่งทรงคุณค่าไว้เป็นมรดกภูมิปัญญาของชาติ จํานวนทั้งหมด ๔๕๗ ชื่อเรื่อง ประกอบด้วย ภาษาไทย จํานวน ๓๒๐ ชื่อเรื่องภาษาต่างประเทศ ๑๐๘ เล่ม และภาษาถิ่น (ล้านนา) จํานวน ๒๙ ชื่อเรื่อง ซึ่งจากหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกพิจารณาลักษณะและคุณค่าของหนังสือหายากตามแนวทางของหอสมุดแห่งชาติรวมทั้ง พิจารณาเทียบเคียงกับประเภทหนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติ ปรากฏว่าหนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สามารถจําแนกแบ่งออกเป็น ๑๒ ประเภท ดังนี้
๑. หนังสือที่มีตราหอพระสมุดวชิรญาณ
เป็นหนังสือที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของมาแต่เริ่มแรกและตกทอดมาจนถึงปัจจุบันของหอสมุดแห่งชาติ โดยตราหอพระสมุดวชิรญาณได้มีการเปลี่ยนแปลงจากอดีต ในปี พ.ศ. ๒๔๓๕ จนถึงปัจุบันมีลักษณะของดวงตรา ๗ แบบด้วยกัน ซึ่งตราหอพระสมุดวชิรญาณที่ปรากฏในหนังสือหายากของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ พบมีอยู่ ๓ แบบ ได้แก่
๑.๑ ตราหอพระสมุดวชิรญาณ ตรานี้ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๘ เป็นรูปพระมหามงกุฏ มีพานสองชั้นรองสมุดและแว่นฟ้าอยู่ด้านซ้ายขวา ด้านล่างเป็นอักษรอริยกะ ความว่า “วชิรญาณ” อาทิ “ประชุมหนังสือเก่า ภาค ๒” หม่อมเจ้า ปิยภักดีนารถ พิมพ์แจกในงานปลงศพสนองคุณหม่อมบาง หม่อมมารดา ปีมโรงอัฐศก พ.ศ. ๒๔๕๗ พิมพ์ที่โรงพิมพ์ไทย ณสพานยศเส

๑.๒ ตราหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร เป็นรูปวงกลมล้อมรอบพระมหามงกุฏ ที่อยู่ตรงกลาง โดยมีพานสองชั้นรองสมุดและแว่นฟ้าอยู่ด้านซ้ายขวา ด้านบนซ้ายมีเครื่องหมายฟองมัน และ อักษรความว่า “หอพระสมุด” ด้านบนขวามีอักษรความว่า “วชิรญาณ” และเครื่องหมายอังคั่นวิสรรชนีย์ ด้านล่างตรงกลางมีอักษรอริยกะความว่า “วชิรญาณ” ด้านบนตรงกลางเหนือพระมหามงกุฏ มีรัศมีส่อง ลงมาทั้งสองข้าง ตราแบบนี้ใช้มาจนถึง พ.ศ. ๒๔๖๘ อาทิ “ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ ภาค ๔” ประกาศปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๐๑ พิมพ์ในงานพระศพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศวโรปการ ครบศตมาห ณ วันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร พิมพ์ที่โรงพิมพ์หลวง ปี พ.ศ. ๒๔๔๗

๑.๓ ตราพระราชลัญจกรมังกรคาบแก้ว เป็นตราที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ใช้เป็นตราประจำตำแหน่งสภานายกราชบัณฑิตยสถาน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ ครั้น หอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนครรวมกับราชบัณฑิตยสภาแล้ว จึงใช้ตรานี้มาจนถึงเมื่อมีการประกาศ ยกเลิกราชบัณฑิตยสภาในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ อาทิ “จดหมายเหตุเสด็จประพาศต่างประเทศในรัชกาลที่ ๕ เสด็จเมืองสิงคโปร์ แลเมืองเบตาเวียครั้งแรก แลเสด็จประพาศประเทศอินเดีย” พิมพ์แจกในงานศพ พระยาอภิรักษ์ราชอุทยาน (แฉล้ม อมาตยกุล) ปีมเสงนพศก พ.ศ. ๒๔๖๐

๒. หนังสือที่มีประวัติการครอบครอง
เป็นหนังสือที่มีหลักฐานหรือประวัติว่าเคยเป็นของผู้ใด มาก่อน และมอบหนังสือที่เคยเป็นเจ้าของ ทั้งจากหน่วยงานและบุคคลให้แก่ทางหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ อาทิ “หนังสือประถม ก กา แจก ลูก” บอกอักษรสูง. ต่ำ. แล้ว ให้ผันตามสำเนียงไม้เอก โท ตรี จัตวา สำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เรียนได้ ราคาเล่มละสลึง โรงพิมพ์สามัคคี ตำบลถนนมหาไชย กรุงเทพฯ รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๘ (พ.ศ. ๒๔๕๒) ซึ่งหน้าปกในปรากฏตราประทับและใบลงทะเบียนหนังสือของ ห้องสมุดโรงเรียนประจำมณฑลพายัพ “ยุพราชวิทยาลัย” และปรากฏข้อความว่าเป็นหนังสือของ นายทองดี สุจนิล “ให้บำรุงห้องสมุดโรงเรียนประจำมณฑลพายัพ “ยุพราชวิทยาลัย” ณ วันที่ ๗ สิงหาคม “เสภาเรื่องพระราชพงษาวดาร กรุงเก่า” นายหมู่ใหญ่ พระยาโบราณบุรานุรักษ์ ผู้รั้งผู้บังคับกองเสือป่า มณฑลกรุงเก่า พิมพ์เป็นของยินดีแจกสมาชิกกองเสือป่า เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวันเสด็จพระราชดำเนินมาทรง เปิดสโมสรเสือป่ามณฑลกรุงเก่า ณ พระราชวังจันทรเกษม ร.ศ. ๑๓๐ (พ.ศ. ๒๔๕๕) ซึ่งภายในตัวเล่ม หนังสือปรากฎข้อความว่า “ให้ไว้แก่ห้องสมุดเชียงใหม่ พืชน์ เดชะคุปต์ ๑๓/๕/๗๐”



๓. หนังสือที่มีลักษณะโดดเด่น เนื้อหาน่าสนใจ


เป็นหนังสือที่มีลักษณะโดดเด่น น่าสนใจ รวมถึงหนังสือที่เขียน โดยปราศจากความจริง วรรณกรรมแปลง อาทิ “นิทรา ชาคริช” พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) พิมพ์ครั้งที่สาม ๕,๐๐๐ ฉบับ โดยอนุญาตจาก กระทรวงธรรมการ ศก ๒๔๕๕ ปกแข็งหุ้มผ้า ราคาเล่มละ ๘๕ สตางค์ โรงพิมพ์อักษรนิติ์ เป็นหนังสือที่ได้เก็บเนื้อความ ในนิทานเรื่องหนึ่งของอาเรเบียนไนต์ เอนเตอเตนเมนต์(Arabian night entertainment) ซึ่งเรียกชื่อว่า สลีเปอ อะเวเกน (Sleeper Awaken) เป็นเรื่องราว รวบรวมนิทานต่าง ๆ ในประเทศอินเดีย อาหรับ แอฟริกา ซึ่งเป็นหนังสือที่มีการพิมพ์เป็นหลายภาษา ทั้งภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ
๔. หนังสือที่พิมพ์โดยโรงพิมพ์ยุคแรก ๆ ของประเทศไทย
เป็นหนังสือที่ได้มีการพิมพ์โดยโรงพิมพ์ ในยุคแรก ๆ ของประเทศไทย รวมทั้งโรงพิมพ์ในยุคแรก ๆ ของท้องถิ่น อาทิ “MATTHEW เรื่องประเสริฐ ของพระเยซูคริศต์” เรียบเรียงโดยท่านมัดธาย แปลออกจากภาษาเฮเลน พิมพ์ครั้งที่ ๗ จำนวนพิมพ์ ๔,๐๐๐ เล่ม ตีพิมพ์ที่โรงพิมพ์ครูอเมริกัน คริศต์ศักราช ๑๙๑๐ (พ.ศ. ๒๔๕๓) “เรื่อง เต็ลมา ภาคที่สอง เล่ม ๑” โดย ศ.ร. พิมพ์ที่โรงพิมพ์กรุงเทพฯ เดลิเมล์ ถนนสี่พระยา กรุงเทพฯ พระพุทธศักราช ๒๔๕๕ ราคา เล่มละ ๕๐ สตางค์ และ“คำแนะนำ พระอธิการวัด, เจ้าคณะหมวด, เจ้าคณะแขวง และพระอุปัชฌาย์ ในจังหวัดลำพูน ของพระครูญาณมงคล เจ้าคณะจังหวัดลำพูน” พ.ศ. ๒๔๖๒ พิมพ์ครั้งที่ ๑ จำนวน ๕๐๐ เล่ม พิมพ์ที่โรงพิมพ์อุปโยคินบำรุงประเทศเจริญ บ้านฮ่อ จังหวัดเชียงใหม่



๕. หนังสือที่จัดพิมพ์เป็นครั้งแรก
คือ หนังสือที่มีการจัดพิมพ์ต้นฉบับออกมาในรูปเล่มของหนังสือ เป็นครั้งแรก เป็นฉบับที่เสนอข้อเท็จจริง ความคิดเห็น ประสบการณ์ หรือเจตนาที่แท้จริงที่สุดของผู้เขียน ซึ่งเดิมหนังสือเหล่านี้มักถ่ายทอดภาษามาจากหนังสือสมุดไทย หรือองค์ความรู้ตามยุคสมัย อาทิ “หนังสือ ธัม์มจัก์กัป์ปวัต์ตนสูตร์” พระมหาแจ่มเปรียญเอกวัดมกุฎกษัตริยาราม แปล อนัต์ตลักขณสุตร์ อาทิต์ตป ริยายสุตร์ พระมหาศุขเปรียญ ๕ ประโยค วัดราชบพิธ แปล หลวงดำรงธรรมสารสร้างไว้ในพะพุทธสาสนา พิมพ์ครั้งแรก ๕,๐๐๐ ฉบับ รัตนโกสิน ศก ๑๒๔ (พ.ศ. ๒๔๔๘) โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ และ “เรื่องพระปฐมเจดีย์” เจ้าพระยาทิพากรวงษ์ เรียบเรียง ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ พิมพ์ครั้งแรก สำหรับจำหน่ายที่พระปฐมเจดีย์ โรงพิมพ์ไทย สพานยศเส กรุงเทพฯ ร.ศ. ๑๒๘๒๖ (พ.ศ. ๒๔๕๒)


๖. หนังสือที่มีบุ๊คเพลทหรือบรรณสิทธิ์
เป็นหนังสือที่มีป้ายหรือตราประจำตัวของหนังสือ และ หนังสือที่เจ้าของเดิมมอบให้ผู้อื่น แสดงความเป็นเจ้าของหนังสือ ที่มีรูปแบบลวดลายต่างกัน ติดไว้ด้านใน ของปกหน้าหรือที่ใบรองปก อาทิ “แผนที่เดินทางในบริเวณมณฑลราชบุรี มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐”๒๗ ภายในเล่มปรากฏบุ๊คเพลทหรือบรรณสิทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวปรากฏอยู่ด้านใน ของปกหน้า ลักษณะโดดเด่นที่น่าสนใจของหนังสือ เมื่อพับเก็บจะมีขนาดเล็กกว่าขนาดหนังสือปกติทั่วไป ตัวเล่มจะคล้ายกับคู่มือขนาดกะทัดรัดพกพาได้ง่าย แต่เมื่อเปิดออกจะปรากฏภาพแผนที่ขนาดใหญ่ ๑ แผ่น บอกรายละเอียดว่าเป็น “แผนที่เดินทางในบริเวณบ้านโป่ง-เพ็ชร์บุรี-และปลายลำแม่น้ำภาชี มาตราส่วน ๑: ๒๐๐,๐๐๐” ตัววัสดุแผนที่เป็นกระดาษผ้าทั้งแผ่น และหน้าปกประดับชื่อหนังสือและกรอบล้อมรอบสีทอง ซึ่งแตกต่างจากหนังสือส่วนใหญ่ที่จะนิยมพิมพ์ตัวอักษรสีดำ



๗. หนังสือที่ออกในโอกาสพิเศษ
เป็นหนังสือที่จัดพิมพ์ในโอกาสต่าง ๆ เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสต่าง ๆ ทั้งที่ระลึกในวันเกิด งานพระราชทานเพลิงศพ งานพระราชทานกฐิน เป็นต้น อาทิ “สาราทานปริยาย กถามรค” โดยพระพุทธภาสิตสูตร มาในพระคัมภีรปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม พิมพ์ ๒,๐๐๐ ฉบับ เดือนสี่ ปีมะโรงโทศก จุลศักราช ๑๒๔๒ (พ.ศ.๒๔๒๓) ปัจจุบันมีอายุ ๑๔๓ ปี ถือว่าเป็น “หนังสือหายากภาษาไทยที่มีอายุเก่าที่สุดในหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่” จากหลักฐานกล่าวถึงหนังสือ “สาราทานปริยาย กถามรค” เป็นหนังสือที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์แจกในงานพระเมรุพระศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี (สมเด็จพระนางเรือล่ม) และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์ เพชรรัตน์ ซึ่งทรงสิ้นพระชนม์พร้อมกับพระราชมารดา หนังสือเล่มนี้ยังถือว่าเป็น “หนังสือสวดมนต์ภาษาไทยเล่มแรกที่ตีพิมพ์ในประเทศไทย” เนื้อหาเป็นบทสวดมนต์คำนมัสการและบูชาพระ รวมพระสูตรและพระปริตต่าง ๆ


“ราชสกุลวงศ์ พระนามเจ้าฟ้าแลพระองค์เจ้าในกรุงรัตนโกสินทร์” สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนศุโขไทยธรรมราชา ทรงพิมพ์เป็นทักษิณานุประทาน อุทิศส่วนพระกุศลสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมนาพระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่พระเมรุมาศท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ พิมพ์ที่โรงพิมพ์ไท กรุงเทพฯ กล่าวเริ่มถึงลำดับปฐมวงศ์ พระนามพระราชโอรสธิดาในรัชกาลที่ ๑ - รัชกาลที่ ๕ นับว่าเป็นหนังสือหายากที่มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รวบรวมราชสกุลวงศ์ในกรุงรัตนโกสินทร์ที่สมบูรณ์อีกเล่ม
๘. หนังสือที่มีรูปเล่มสวยงาม
เป็นหนังสือที่มีปกสวยงามเป็นพิเศษ ทำปกด้วยหนังแท้มีลวดลายเป็นทอง หนังสือที่มีภาพประกอบเป็นฝีมือของจิตรกรเอก หรือบุคคลสำคัญ หนังสือที่พิมพ์ด้วยกระดาษอย่างดี ราคาแพง อาทิ “นิราศมะเหลเถไถ” แถลงเรื่องเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคในมณฑลอยุธยาและนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยศรีอยุธยา “รามเกียรติ์ บทร้องและบทพากย์” พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ พระมงกุกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พิมพ์แจกในงานฉลองสุพรรณบัฏ (แผ่นทองที่เขียนจารึกพระนามเจ้าที่ตั้งเป็นกรมนั้น) จางวางเอก แลนายพลโท เจ้าพระยารามราฆพ ณ วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ “บ่วงมาร ลครพูด ๔ ชุด” ของศรีอยุธยา (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) แต่งเสร็จเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๗ นับว่าเป็นหนังสือหายากที่มีรูปเล่มสวยงาม ด้วยลักษณะของหน้าปกทำด้วยผ้าสีต่าง ๆ ลวดลายและตัวหนังสือสีทองสวยงาม พร้อมทั้งปรากฏตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ ซึ่งแตกต่างจากหน้าปกของหนังสือหายากทั่วไป จากข้อสังเกตลักษณะหน้าปกแสดงถึงอัตลักษณ์หนังสือพระราชนิพนธ์ของพระองค์ได้อย่างชัดเจน



๙. หนังสือที่มีภาพเก่าที่น่าสนใจ
คือ หนังสือที่มีภาพเก่าสวยงาม มีคุณค่า อาทิ “พระราชนิพนธ์เรื่องไกลบ้าน” ฉบับมีรูปภาพ เล่ม ๑ และจดหมายเหตุประกอบเรื่องไกลบ้านว่าด้วยการส่งเสด็จ การรักษาพระนครเวลาเสด็จไม่อยู่ และการรับเสด็จกลับคืนพระนคร คราวพระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปยุโรปครั้งหลัง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ ทรงรวบรวมและจัดพิมพ์ในงานฉลองพระชันษา พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ เมื่อปีกุน พ.ศ. ๒๔๖๖ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
“Journal Du Voyage De Siam Fait En 1685 & 1686” (จดหมายเหตุรายวันการเดินทางไปสู่ประเทศสยาม ในปี ค.ศ. ๑๖๘๕ และ ๑๖๘๖) ของ M. L'Abbe de Choisy (บาทหลวง เดอ ชัวซีย์) จัดพิมพ์โดย Editions Duchartre et Van Buggenhoudt เป็นภาษาฝรั่งเศส เป็นบันทึกความทรงจำการเดินทาง เมื่อครั้งที่คณะราชทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ พระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เชิญพระราชสาสน์มายังสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จเจ้ากรุงสยาม โดยบาทหลวง เดอ ชัวซีย์ ทำการเขียนบันทึกเป็น จดหมายเหตุประจำวันตลอดการเดินทาง จะขาดอยู่เพียงวันเดียวเท่านั้นที่ไม่มีในต้นฉบับ คือ วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๒๒๙ จดหมายเหตุรายวันฉบับนี้นับว่าเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงให้เห็นถึง การเดินทาง พลเมือง โรคภัยไข้เจ็บ การทูต การเมืองและการปกครอง ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ในช่วงยุคสมัยนั้น พร้อมทั้งมีภาพประกอบที่ทรงคุณค่า



๑๐. หนังสือชีวประวัติของบุคคล
เป็นหนังสือที่มีเนื้อหากล่าวถึงประวัติบุคคล อาทิ “ประวัติหลวงสันทิศวิทยาสัณห์ (เกลี้ยง สุนทรรัตน์) กับ ปกิณ์กธรรม” กลีบ สุมนนัฏ พิมพ์แจกไว้อาลัยในงานศพหลวงสันทิศวิทยาสัณห์ ผู้เป็นหลาน พระพุทธศักราช ๒๔๖๑

๑๑. เอกสารต้นฉบับลายพระราชหัตถเลขา และลายมือเขียน
เป็นเอกสารที่เป็นต้นฉบับลายพระราชหัตถเลขาหรือลายมือเขียน อาทิ “เรื่องตามใจท่าน ลครเริงรมย์ของวิลเลียม เชกส์เปียร์” สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม ทรงแปลจากเรื่อง As You Like It และประพันธ์เป็นกาพย์ภาษาไทย มีคำนำพิเศษซึ่งเป็น Facsimile ลายพระราชหัตถ์ของรัชกาลที่ ๖ ปรากฏอยู่ในเล่ม ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมขึ้นเพื่ออนุรักษ์ผลงานอันทรงคุณค่า ควรแก่การศึกษา ค้นคว้าให้สืบทอดคงอยู่เป็นมรดกทางวรรณกรรมของชาติสืบต่อไป “พระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ สมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงมีพระราชทานแด่ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนี ในวันที่ทรงสำเร็จราชการแผ่นดินต่างพระองค์เมื่อเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรป พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานเป็นที่รฤกในงานพระบรมศพ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร



๑๒. หนังสือที่พิมพ์เป็นภาษาต่าง ๆ
คือ หนังสือที่มีการจัดพิมพ์เป็นภาษาอื่น ๆ เช่น หนังสืออักษรอริยกะ ภาษาเทวนาครี ภาษาพม่า ภาษาถิ่น (ล้านนา) อาทิ “สาธารณสุข (ออกสุก - ปลูกสุก)” หน้าปกปรากฏข้อความว่า “สาธารณสุข อันดับ ๑๙ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ พิเศษ ไปหื้อปลูกสุกซ้ำเสียวันนี้เทอะ ได้พิมพ์เป็นอักษรลาว (มณฑลลาวเฉียง) ๑๐,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ที่โรงพิมพ์อุปโยคิน เชียงใหม่”
“หมายประกาศเป็น “ข้อบังคับสำหรับซื้อขายช้าง” ตั้งไว้โดยข้าหลวงใหญ่รักษาราชการมณฑลลาวเฉียง ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๗ (พ.ศ. ๒๔๔๑) พิมพ์คราวแรก ๕๐๐ ฉบับ เป็นอักษรล้านนา ภาษาล้านนา กล่าวถึง หมายประกาศข้อบังคับสำหรับซื้อขายช้างที่กำหนดขึ้นและประกาศให้ทราบทั่วกันในมณฑลลาวเฉียง จากเหตุการณ์บ้านเมืองในยุคสมัยนั้นเกิดโจรผู้ร้ายลอบลักช้าง ข้าหลวงใหญ่รักษาราชการมณฑลลาวเฉียง เห็นชอบและอนุญาตให้ประกาศหมายประกาศดังกล่าว เป็นหนังสือหายากที่ทรงคุณค่าทั้งทางด้านอักษร ภาษาและประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น


🌟 บทสรุป
หนังสือหายากที่มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี ของหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ถือว่าเป็นเอกสาร หลักฐานสําคัญที่ใช้ในการศึกษา ค้นคว้า และอ้างอิงในด้านต่าง ๆ อัน สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราว ความรู้ และวิวัฒนาการของสังคมแต่ละยุคสมัย ทั้ง ด้านประวัติศาสตร์ สังคม ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา วรรณกรรม การพิมพ์ ศิลปกรรม ซึ่ง คุณค่าของหนังสือหายากเหล่านี้ไม่เพียงอยู่ที่อายุ แต่อยู่ที่เนื้อหาสาระที่ได้บันทึกไว้ตั้งแต่อดีตในแต่ละยุคสมัยที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ยังเป็นหอสมุดแห่งชาติสาขาแห่งเดียวประจําภาคเหนือ ที่ถือว่ามีบทบาทสําคัญในการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมหนังสือหายาก ในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก โดยหน่วยงานได้ มุ่ง พัฒนา การให้บริการ หนังสือหายากในรูปแบบที่สอดคล้องกับปัจจุบัน ควบคู่ไปพร้อม กับการดําเนินการแปลงข้อมูลหนังสือหายากให้เป็นดิจิทัล เพื่อ อนุรักษ์ ต้นฉบับ หนังสือหายากที่มีคุณค่าเหล่านี้ ให้คงอยู่อย่างยาวนาน ถ่ายทอดองค์ความรู้อันเป็นมรดกภูมิปัญญาที่ปรากฏในหนังสือหายากให้เผยแพร่อย่างกว้างขวาง และเกิดการใช้ประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจค้นคว้า สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่
